พี่แพรรีวิวเรียนต่อ University of Surrey

MA Intercultural Business Communication and Marketing

---

University of Surrey

แนะนำตัวหน่อยค่า   เป็นใครมาจากไหน ?

สวัสดีค่า ชื่อแพรนะคะ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์นะคะ เป็น Marketing Communications ค่ะทำมาได้ 3 ปีแล้วค่ะ

ก่อนหน้านี้เคยเป็น Associate Editor ของแมกกาซีนแนวกิน ดื่ม เที่ยว ภาษาอังกฤษค่ะ ตอนที่ทำอยู่ก็มีโอกาสได้ทำงานกับทีม PR และ ทีม Marketing ขอโรงแรมและร้านอาหารดังๆทั่วไทยเลยค่ะ แล้วก็รู้สึกว่าต้องเองชอบงานที่ challenging มีแคมเปญ มี goals ต่างๆให้เราต้องทำให้ได้เลยอยากเปลี่ยนสายงานมาทำ Marketing คะ ตอนนั้นเลยตัดสินใจเรียน Communications and International Marketing  (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น MA Intercultural Business Communication and Marketing  รวมถึงปรับวิชาบางตัวให้ทันสมัย)  ที่ University of Surrey ค่ะ

ที่ University of Surrey เป็นยังไงบ้างคะ เล่าให้ฟังหน่อยค่า ?

มหาลัยเป็นมหาลัยอันดับต้นๆของ UK ค่ะ อยู่ในเมือง Guildford เป็นเมืองเล็กๆแต่มีครบทุกอย่าง ไปลอนดอนก็สะดวกเพียงแค่ประมาณ 40 นาทีโดยรถไฟค่ะ ในแคมปัสก็จะมีครบทุกอย่างจริงๆ หรือถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็สามารถนั่งรถบัสหรือเดินเขาไป Town Centre ได้เลย มีห้างร้านเต็มไปหมดเลยค่ะ แถมมีปราสาทกับที่ท่องเที่ยวอื่นๆด้วยนะ ที่ชอบที่สุดคือห้องสมุดในแคมปัสใหญ่มาก หนังสือเยอะมาก และมีมุม Study เยอะมากทั้งแบบเดี่ยวๆและห้องสำหรับ group study ค่ะ

Style การเรียนของ Programme นี้เป็นยังไงบ้างคะ ประทับใจอะไรบ้าง ? 

สำหรับสาขา MSc Communications and International Marketing ก็จะเน้นหลักๆไปที่การตลาดนะคะ แต่ว่าก็จะมีในส่วนของวิชาเกี่ยวกับพวกการทำ Research การสื่อสารเชิงวัฒนธรรม เพื่อให้เราเข้าใจ concept คร่าวๆ เพราะว่า interpersonal communication เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำการตลาด ทำให้เราเข้าใจมุมมองของผู้รับสาร และการส่งสารต่างๆในการทำแคมเปญการตลาดค่ะ

การเรียนการสอนในแต่ละคอร์สก็จะมีทั้ง lecture ที่มีการเชิญ Speaker จากองค์กรดังๆมาบรรยาย ห้องเล็กเป็นกลุ่มๆ มีการทำรายงานทั้งรายบุคคลและรายงานกลุ่ม มีการทำ Dissertation ที่ชอบที่สุดคือมี workshop และ คอร์สที่เน้นภาคปฎิบัติ เช่น ให้เราจับกลุ่มเพื่อนๆทำทีม PR แล้วทำโปรเจคการตลาดให้กับหน่วยงานต่างๆแล้ว present หน้าชั้นเรียน

ระหว่างเรียน มีได้ฝึกงาน หรือทำงานพิเศษอะไรบ้างไหมคะ ?

ไปสัมภาษณ์งานเยอะมาก เพราะเราเคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน เลยอยากลองทำงานจริงๆจังๆมากสุด แต่อุสรรคของเราคือทางอังกฤษเขาให้นักเรียนทำงานได้แค่ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แล้วบริษัทส่วนใหญ่ที่ไปสัมภาษณ์เขาสะดวกที่จะได้คนมาทำหรือแม้แต่นักศึกษาฝึกงานที่สามารถ distribute ให้เขาได้มากกว่า 20 ชั่วโมงทั้งนั้นเลย สุดท้ายเราก็จบที่ทำงานฟิตเนสเป็น Reception ประมาณสองเดือนแรกแล้วก็เปลี่ยนมาทำร้านอาหารไทยหลังจากนั้นจนกลับไทยค่ะ ตอนทำร้านอาหารก็อาสาช่วยทำการตลาดเล็กๆน้อยๆในเพจร้านนะ คนมันร้อนวิชาอะเนอะ ฮ่าๆ

พี่แพรเล่าให้ฟังหน่อยสิ ว่าชอบวิชาไหนบ้าง แล้วมันมีประโยชน์ยังไง ?

ฟังดูเหมือนพูดเว่อร์นะแต่ว่าเกือบทุกวิชาเลยที่มีประโยชน์กับอาชีพการงานตอนนี้มาก 😛 คือเหมือนคอร์สนี้เขาจัดเรียงองค์ความรู้ต่างๆมาให้เรามีครวามรู้ที่เป็นหัวใจหลักของการทำงานสายการตลาดเลยนะ ตั้งแต่วิชาที่เป็นพวก Principles ต่างๆ เกี่ยวกับ Marketing และ Communications diversity ในเชิงการสื่อสารการตลาด ส่วนวิชาที่ยากที่สุดน่าจะเป็นพวกวิชา Reserach Methods อาจเป็นเพราะคำศัพท์เฉพาะทางต่างๆด้วยค่ะเลยทำให้มี language barrier เกิดขึ้นระหว่างฟังอาจารย์ แต่พอกลับมาอ่านเองเพิ่มเติมเราก็สามารถหาภาาาไทยหรือแปลศัพท์ยากๆก็สามารถเข้าใจบทเรียนได้มากขึ้นค่ะ ไม่ได้ยากเกินความสามารถ สงสัยตรงไหนก็ส่งอีเมล์ถามอาจารย์ได้ตลอดเลย (ง่ายสุดคือถามเพื่อนเจ้าของภาษาค่ะ)

เพื่อนส่วนใหญ่ในห้อง มีกี่คน ส่วนใหญ่เป็นชาติไหนบ้าง อาจารย์เป็นชาติอะไรซะเยอะ ?

คลาสเรียนไม่ใหญ่ค่ะ มีประมาณ 20-25 คนมั้ง เพื่อนๆก็จะมาจากหลายชาติเลย คนไทยก็มีบ้างแต่ไม่ถึง 10 นะ ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปค่ะ อาจารย์ส่วนใหญ่เป็นคนอังกฤษค่ะ

พี่แพรไปเที่ยว London บ่อยมาก หลาย ๆ คนบอกว่าเมือง London ค่าใช้จ่ายสูงมาก พี่แพรแนะนำว่ายังไงคะ ?

หลายคนจะกังวลว่าอยู่ลอนดอนแพง จะแพงไม่แพงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์เราจริงๆค่ะ พรใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเทียวไปที่ต่างๆ กินอาหารร้านทั่วไปแบบ 5-10 ปอนด์ นอกนั้นไม่ว่าจะมิวเซียม แกเลอรี่หรือหลายๆที่ท่องเที่ยวก็เข้าฟรีค่ะ เพราะฉะนั้นถามว่าอยู่ลอนดอนแพงไหม ต้องแล้วแต่ไลฟ์สไตล์จริงๆค่ะ

ประทับใจอะไรกับการไปเรียนที่นี่คะ เห็นพี่แพรบอกว่าเมือง London คือ the Best ที่ประทับใจไม่รู้ลืม ?

บอกตรงๆเลยว่ามันเป็นอะไรที่ heartbreaking มากที่ต้องกลับไทย ชอบอังกฤษมาก คิดไว้ตั้งแต่เรียนมัธยมแล้วว่ายังไงก็ต้องมาเรียนที่อังกฤษให้ได้ whatever it takes! คือเป็นคนชอบอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ เดินพิพิธภัณฑ์ เดินแกลอรี่ เสพย์ art and culture ซึ่งอังกฤษคือตอบโจทย์มาก ติ้กถูกทุกข้อในใจเราเลย 

เราเลือกที่พักในลอนดอนค่ะยอมนั่งถไฟไปเรียนนอกเมืองทุกวัน ลอนดอนคือเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ ทั้งวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ต่างๆนานาที่แค่เดินมิวเซียม ดูมิวสิเคิล เดินเล่นตามย่านต่างๆในทุกๆวันก็มีความสุขแล้ว เพราะเราอ่านนั้นอ่านนี่ตอนอยู่ไทยแล้ววันนึงเราได้มาเห็นของจริงอยู่ตรงหน้า มันรู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก แล้วก็การได้ท่องเที่ยวไปเมืองต่างๆในอังกฤษ (และบางเมืองในยุโรป) ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ล้ำค่า คือเดินทางจากลอนดอนไปเมืองอื่นๆง่ายมาก

 เราก็ไปนอกเมืองทุกวันหยุดเลย ชอบไปดูสถาปัตยกรรม ไลฟสไตล์ของเมืองนั้นเมืองนี้ สิ่งที่มีค่าที่สุดของการไปเรียนที่อังกฤษนอกจากปริญญาโทก็คือประสบการณ์ชีวิต ได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยทำ ได้ไปเที่ยว ได้เห็นโลกกว้างมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันทำให้เราเป็นเราในแบบที่ดีขึ้นทั้ง Personally และ Professionally เลยค่ะ ทุกวันนี้ถ้ามีคนถามว่าไปเรียนต่ออังกฤษดีไหม จะตอบทันทีเลยว่าถ้าเราพร้อมและมีโอกาสก็ไปค่ะ สิ่งที่เราจะได้กลับมารับรองว่ามันมากกว่าแค่ปริญญาบัตรแน่นอน 

อ่านรีวิวด้าน Marketing ใน UK กับพี่ๆ Alumni ท่านอื่นต่อได้เลย    

อ่านรีวิวจากพี่จ๋า Coventry Universityอ่านรีวิวจากพี่ยิ้ม University of Readingอ่านรีวิว MSc Digital Marketing จากพี่เกน

อ่านรีวิว MSc Marketing จากพี่พลอย

อ่านรีวิว MSc Marketing จากพี่ยีน

อ่านรีวิว MSc Marketing จากพี่ป้อน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสมัครเรียน ติดต่อพี่ๆ BRIT-Ed ได้ที่ Line ID: @brit-ed Tel: 02-168-7890, หรือลงทะเบียนที่แบบฟอร์มด้านล่างบริการทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นค่ะ