รีวิวเรียนต่อ Marketing Communication ที่ University of the West of England, UK

รีวิวเรียนต่อ Marketing Communication ที่ University of the West of England, UK

รีวิวเรียนต่อ Marketing Communication ที่ University of the West of England, UK

University of the West of England: MSc Marketing Communication

แนะนำตัวหน่อยจ้า… background ก่อนมาเลือกเรียนปริญญาโทวิชานี้ เช่น เรียนอะไรมาก่อน หรือ ทำงานอะไรมาก่อน - สวัสดีค่ะ ชื่อ รวินดา ซื่อสัตยาทรัพย์ ชื่อเล่น แอร์ ก่อนที่จะตัดสินใจมาเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ แอร์จบมาจาก ABAC คณะ communication art สาขา advertising หลังจากจบมาก็มีโอกาสทำงานในสาย agency โฆษณา ที่ Spa Hakuhodo advertising agency งานที่ทำคือตำแหน่ง account executive ซึ่งค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เรียนมาตอนปริญญาตรี เราทำงานที่นี่ได้ 1 ปี แล้วจึงตัดสินใจไปเรียนต่อ

เหตุผลที่เลือกเรียนมหาวิทยาลัยนี้และคณะนี้ เพราะอะไร คาดหวังอะไร และคณะที่เราเลือกมีเกณฑ์คะแนนอะไรบ้าง

- เหตุผลที่เลือกเรียนต่อโทเพราะ ทางมหาวิทยาลัย ( ABAC ) มีโปรแกรมร่วมกับมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษแล้วไม่ต้องสอบ IELTS เราเลยศึกษาเพิ่มและเห็นว่ามีคณะที่น่าสนใจและเราน่าจะชอบคือคณะ Marketing Communication ที่ University of the West of England ที่เลือกที่นี่เป็นเพราะหลาย ๆ ปัจจัย อันดับแรกน่าจะเป็นเมืองที่อยู่ เมืองที่เราอยู่คือเมือง  Bristol ซึ่งเป็นเมืองค่อนข้างใหญ่ เลยคิดว่าการเดินทางและความเป็นอยู่น่าจะสบายและไม่อันตราย มากไปกว่านั้นที่เลือกมหาวิทยาลัยนี้เพราะว่าเคยมีรุ่นพี่ที่รู้จักแนะนำบอกว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ ranking ไม่แย่มากถ้าเทียบกับมหาวิทยาลัยที่ไม่ต้องสอบ IELTS และคณะนี้เราคิดว่ามันสามารถต่อยอดในสายงานได้น่าจะเยอะ

ช่วยเล่าประสบการณ์เมื่อเครื่องบินถึงสนามบิน UK เรารู้สึกกังวล หรือ มีการเตรียมตัวเดินทางมายังไง ได้มีเพื่อนไปด้วยไหม หรือ ไปคนเดียว

- ตอนแรกก็มีความกังวลบ้างเรื่องเอกสารจะครบรึป่าว แต่ด้วยความที่มีเพื่อนบินไปด้วยเลยไม่ค่อยกลัวมากนัก แล้วเราก็คิดว่าค่อนข้างศึกษาเส้นทางมาอย่างดีพอสมควร การเตรียมตัวก่อนเดินทางเราว่าเราค่อนข้างเตรียมมาเยอะทั้งอาหาร เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ หรือแม้แต่เอกสารก็เอามาเผื่อทุกอย่าง

เมื่อไปถึงมหาลัยที่ UK ตอนนั้นรู้สึกยังไง และ เจออะไรไหมที่ทำให้ต้องปรับตัว ที่พักเป็นยังไง และ มหาวิทยาลัยเป็นยังไงในความคิดเรา

- ไม่ได้รู้สึกต้องปรับตัวมากขนาดนั้นอาจจะเป็นเพราะเราเรียนมหาวิทยาลัยอินเตอร์มาตอนปริญญาตรี แต่ก็มีเรื่องให้ปรับนิด ๆ หน่อย ๆ เรื่องการเป็นอยู่เพราะด้วยสภาพอากาศที่ประเทศอังกฤษแอบมีความเหงา ๆ หนาว ๆ ทำให้บางทีก็รู้สึกคิดถึงบ้านแต่สักพักก็โอเคขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเรื่องที่พักเราเลือกเป็นหอนักเรียนที่อยู่นอกมหาวิทยาลัยและอยู่ใจกลางเมืองเพราะตัวมหาวิทยาลัยอยู่นอกเมืองเลยกลัวว่าจะหาอะไรกินลำบาก ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกมากเพราะอะไร ๆ ก็สะดวกไปหมด หอมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบมาก เราเลือกห้องแบบ studio ซึ่งมีครัวและห้องน้ำส่วนตัว ดังนั้นเลยไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับตัวเข้ากับคนอื่น ส่วนมหาวิทยาลัยที่เราเรียนมีความทันสมัยอยู่สูงมาก ห้องเรียนจะเป็นห้องเล็ก ๆ เป็นโต๊ะเหมือนให้จับกลุ่ม เราชอบตรงนี้เพราะห้องเรียนนักเรียนไม่เยอะและอาจารย์ใกล้ชิดกับนักเรียนมาก ๆ

คณะที่เรียน เรียนเกี่ยวกับอะไร มีระบบการสอนต่างจากที่ไทยไหม และยากไหม?

- เราเรียนคณะ Marketing Communication เอาจริง ๆ มันก็คือ Marketing เลยแหละเพราะเรียนกับเด็ก Marketing ทุกตัวมีแค่ตัวเดียวที่เรียนไม่เหมือนกัน แต่คณะนี้จะเน้นไปทาง  Communication เป็นหลัก เหมือนประมาณว่าสื่อสารยังไงให้ประสบความสำเร็จโดยใช้หลัก Marketing  ระบบการสอบเราว่าต่างจากที่ไทยค่อนข้างมากเพราะที่นั้นเค้าไม่ได้สอนทฤษฎีมากเหมือนที่ไทย แต่เค้าเน้นการนำมาประยุกต์ใช้กับความเป็นจริงอย่างไร ถ้าถามว่ายากไหมก็คงบอกว่ายากเพราะด้วยภาษาที่ก็ต้องอ่านเข้าใจและเรื่อง creative ในงานก็ต้องมีทำให้ต้องอ่านบทความและทำการบ้านค่อนข้างเยอะ

มีการสอบแบบไหน งานเยอะไหม และเก็บคะแนนแบบไหน มีต้องไปทำงานต่างประเทศ หรือ ทัศนศึกษาต่างแดนหรือไม่

- คณะที่เราเรียนไม่มีการสอบ แต่มีงานส่งทุกตัวบางวิชาเป็น report บางวิชามี presentation เดี่ยว บางวิชาก็กลุ่ม คณะเราไม่มีการไปทัศนศึกษาต่างประเทศแต่เห็นเพื่อนคณะอื่นบางคณะก็มี

มีอุปสรรคในการเรียนหรือไม่ เพราะอะไร

- การเรียนอาจจะไม่ได้มีอุปสรรคมากนัก แต่ที่เราว่าเป็นอุปสรรคคือเรื่องงานที่ต้องส่งมากกว่า ตัวอย่างเช่น การทำงานกลุ่มที่อาจารย์เป็นคนจับกลุ่มให้ ดังนั้นเพื่อนในกลุ่มก็จะเป็นคนนานาชาติสุด ๆ วิธีคิด การทำงานก็แตกต่างกัน ตอนแรก ๆ ก็ต้องปรับตัวอย่างหนักอยู่ แต่ถ้าเราเริ่มเข้าใจและเปิดรับก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

รู้จักเพื่อนใหม่ ต้องมีการปรับตัวทางวัฒนธรรมหรือไม่

- รู้จักเพื่อนใหม่ค่อนข้างเยอะมีหลากหลายชาติ เช่น เวียดนาม มาเลเซีย คนอังกฤษ หรือแม้แต่คนฝั่งยุโรป หรือ ตะวันออกกลาง ก็มีแต่เหมือนทุกคนค่อนข้างน่ารัก พร้อมที่จะเปิดรับวัฒนธรรมของเพื่อน ๆ อยู่ตลอด ทำให้มีการแชร์ ความคิด วัฒนธรรมต่าง ๆ เยอะมาก ๆ ไม่ถืงกับต้องปรับตัว แต่เป็นการแลกเปลี่ยนมากกว่า

ตอนเรียนเวลาว่างทำอะไร

- จริง ๆ มีเวลาว่างค่อนข้างเยอะเพราะเรียนจริง ๆ แค่ 3 วันต่ออาทิตย์ เราจึงเลือกที่จะไปทำงานที่ร้านอาหารไทยเพราะอยากรู้จักคนให้มากขึ้นและอยากหารายได้มาเที่ยวด้วย นอกจากทำงานก็ทำอาหารกินเองหรือไป  hang out  กับเพื่อน ๆ เป็นส่วนใหญ่

มีกิจกรรมอะไรไหม หรือไปเที่ยวไหนบ้าง มหาวิทยาลัยมีจัดงานอะไรหรือเปล่า ที่เราได้ไปร่วม เล่าให้ฟังหน่อย

- ที่มหาวิทยาลัยมีจัดงานเยอะอยู่ เช่นงานกีฬา งานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมบ้าง แต่ทางเราไม่ค่อยได้ไปร่วมมากนัก เราไปเที่ยวค่อนข้างเยอะแต่ไม่ได้ไปกับมหาลัย ไปกับเพื่อนๆที่เป็นคนไทยเป็นหลัก

มหาวิทยาลัยเป็นยังไง ใหญ่โตไหม มีอะไรพิเศษที่ทำให้รู้เลยว่านี้หละมหาวิทยาลัยฉัน

- มหาวิทยาลัยค่อนข้างใหญ่แต่ละคณะก็จะมีตึกของตัวเอง สิ่งที่คิดว่าพิเศษคือเรื่องการเรียนการสอน จากที่พอรู้มาจากมหาวิทยาลัยอื่นคือเค้าจะสอบกันเป็นห้องใหญ่ ๆ นักเรียน 100-200คนอัพ แต่มหาวิทยาลัยที่เราเรียน ห้องหนึ่งจะสอนแค่ 20 กว่าคนเท่านั้น เลยรู้สึกว่าการเรียนการสอนแบบนี้ทำให้ใกล้ชิดกับอาจารย์มากกว่า มีอะไรไม่เข้าใจก็สามารถถามได้เลย และที่สำคัญเป็นการได้แชร์ความคิดเห็นกันในคลาสได้เยอะมาก

การไปเรียนครั้งนี้เราได้อะไร มีความประทับใจ และความทรงจำอะไรบ้าง

- คิดว่าได้หลายอย่างมากๆ อย่างแรกคือประสบการณ์ที่เราไม่คิดว่าการเรียนในประเทศจะได้ การเป็นอยู่ที่ต้องพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก การเจอเพื่อนใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ ได้ไปในที่ที่ไม่เคยได้ไป ได้รู้ถึงการใช้ชีวิตหลากหลาย รวมถึงวัฒนธรรมที่ไม่เคยรู้มาก่อน

จบมาแล้วตั้งใจทำอะไรต่อ

- ตั้งใจจะลองหางานทำเพื่อเพิ่มประสบการณ์เพิ่มก่อน จากนั้นก็อยากลองทำธุรกิจของตัวเองดู

หากมีน้องๆ สนใจเรียนคณะนี้ พี่ๆ ช่วยแนะนำหน่อยว่าควรเตรียมตัวอะไรบ้าง หรือ ต้องมีพื้นฐานอะไรถึงจะเรียนได้

- อันดับแรกเลยเราว่าคณะที่เราเรียนไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านบริหารมาก่อนเพราะเราเองก็จบตรีนิเทศ แต่เราว่าคณะนี้เน้นความคิดสร้างสรรค์บวกกับหลักการนิดหน่อย แต่ที่สำคัญคือควรเตรียมตัวเรื่องภาษาให้ดีเพราะเอาจริงๆเรียนไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด แต่ภาษาถือเป็นตัวหลักของการสื่อสารกับทั้งอาจารย์ เพื่อน รวมถึงงานที่ส่ง

หลักสูตรอื่นๆที่น่าสนใจที่ UWE Business School ได้แก่

- Accounting and Finance

- Accounting and Financial Management

- Business Management

- Business with Digital Management

- Business with International HRM

- Business with Supply Chain Management

- Digital Marketing

- Events Management

- Finance

- Financial Technology (FinTech)

- Human Resource Management (HRM)

- International HRM

- International Management

- Marketing

- Marketing Communications

- Risk Management and Insurance

- Foundation in Business Management

- MBA Master of Business Administration

- DBA Doctor of Business Administration

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสมัครเรียน

ติดต่อพี่ๆ BRIT-Ed ได้ที่ Line ID: @brit-ed

Tel: 02-168-7890, หรือลงทะเบียนที่แบบฟอร์มด้านล่างบริการทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นค่ะ

ลงทะเบียนร่วมงาน

  • ข้อมูลส่วนตัว

  • หลักสูตรที่สนใจศึกษาต่อ